จากการสำรวจภาวะโภชนาการในช่วงสิบปีที่ผ่านมาของประชากรโลกพบว่า ภาวะโรคอ้วนมีอัตราเพิ่มขึ้นในประชากรทุกกลุ่มทั่วโลกร้อยละ 8.2 เช่น ในสหรัฐอเมริกาประมาณร้อยละ 50 ของผู้ใหญ่ที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน (Overweight) และประมาณครึ่งหนึ่งในของประชากรกลุ่มนี้มีภาวะโรคอ้วน และอัตราของภาวะโรคอ้วนเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะในกลุ่มเพศหญิง (Body mass index > 30.0 กก./ตารางเมตร) ผลของความอ้วนจะนำมาซึ่งโรคต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น
การควบคุมน้ำหนักสามารถทำได้โดยการควบคุมพลังงานที่ได้รับจากอาหาร อาหารไทยเป็นอาหารที่มีศักยภาพในการควบคุมน้ำหนัก เพราะรูปแบบการบริโภคอาหารไทยจะจัดเป็นสำรับซึ่งประกอบด้วยอาหารมากกว่าหนึ่งอย่างขึ้นไป ทำให้สามารถได้รับอาหารหลักครบหมวดทั้งเนื้อสัตว์ ข้าว แป้ง ผัก ผลไม้ และไขมัน สิ่งที่สำคัญ คือ อาหารไทยประกอบด้วยพืชผัก สมุนไพร ตลอดจนเครื่องเทศสดที่เป็นที่ยอมรับกันว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ ไม่มีอาหารชนิดใดชนิดเดียวที่ให้สารอาหารทุกอย่างครบแก่ร่างกายคนเรา การบริโภคอาหารหลักทุกหมวดมีโอกาสได้รับสารอาหารเพียงพออย่างมีนัยสำคัญ การควบคุมน้ำหนักขึ้นกับระดับพลังงาน อาหารที่ให้พลังงานเหมาะสม ช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายการควบคุมน้ำหนักได้ จากแนวคิดนี้จึงได้จัดอาหารไทยชุดสำรับที่ให้พลังงานต่อวันไม่เกิน 1600 กิโลแคลอรี ซึ่งเหมาะสมสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้ใหญ่ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและใช้อาหารหมวดแลกเปลี่ยน (exchange list) ตามหลักโภชนาการในการคำนวณการกระจายพลังงานและการกำหนดปริมาณของอาหารหลักหมวดต่างๆ โดยจัดสำรับอาหารต่อมื้อ แต่ละมื้อจะได้รับพลังงานปริมาณหนึ่งในสามของพลังงานที่ต้องการต่อวัน คือ ประมาณ 400 – 500 กิโลแคลอรีต่อมื้อ และมีการกระจายพลังงานมาจากคาร์โบไฮเดรต 50 – 60 มาจากโปรตีน ร้อยละ 10 -20 มาจากไขมันร้อยละ 20 -30 เช่น
- ปริมาณคาร์โบไฮเดรต ร้อยละ 50 จากพลังงานทั้งหมด 1600 กิโลแคลอรีต่อวันเท่ากับ 800 กิโลแคลอรีต่อวัน 1 กรัมคาร์โบไฮเดรตให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี ดังนั้นในหนึ่งวันจึงควรได้คาร์โบไฮเดรตประมาณ 200 กรัม จากหมวดอาหารต่างๆ
- ปริมาณโปรตีนร้อยละ 20 ของ 1600 กิโลแคลอรี เท่ากับ 320 กิโลแคลอรีต่อวัน 1 กรัมโปรตีนให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี ดังนั้นควรได้รับโปรตีนประมาณ 80 กรัมต่อวัน
- พลังงานที่เหลือจะมาจากไขมัน [ 100- (50+20)] เท่ากับร้อยละ 30 และไขมัน 1 กรัมให้พลังงาน 9 กิโลแคลอรี ดังนั้นควรได้รับไขมันวันละ 53 กรัม ด้วยหลักการนี้นำไปคิดปริมาณอาหารในหมวดต่างๆ แล้วนำมาจัดทำเป็นตำรับอาหารในสำรับต่อไป
อาหารชุดกลุ่มที่1
พลังงาน 390-412.5 กิโลแคลอรี มีการกระจายพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต 60% โปรตีน 15% และไขมัน 25%
อาหารชุดที่ 1 ข้าวสวย แกงเหลืองปลาทูสด ยอดคะน้าผัดน้ำมันหอย แอปเปิ้ล
Items | Energy (KCal) | Carbohydrate (g) | Protein (g) | Fat (g) |
ข้าวสวย 2 ส่วน 110 กรัม | 160 | 36 | 4 | 0.44 |
แกงเหลืองปลาทูสด | 74.92 | 10.62 | 5.54 | 1.28 |
ยอดคะน้าผัดน้ำมันหอย | 310.78 | 35.9 | 13.56 | 12.62 |
แอปเปิ้ล 105 กรัม | 61 | 14.7 | 0.2 | 0.1 |
รวม | 606.70 | 97.22 | 23.30 | 14.44 |
อาหารชุดกลุ่มที่ 2
พลังงาน 390 กิแคลอรี มีการกระจายพลังงานจาก คาร์โบไฮเดรต 55% โปรตีน 20% และไขมัน 25%
ชุดที่ 2 ข้าวสวย ปลากะพงพริกไทยดำ มะระตุ๋นเห็ดหอม แอปเปิ้ล
Items | Energy (KCal) | Carbohydrate (g) | Protein (g) | Fat (g) |
ข้าวสวย 1 1/2 ส่วน 82.5 กรัม | 120 | 27 | 3 | 0.33 |
ปลากระพงพริกไทยดำ | 193.66 | 9.07 | 12.90 | 11.89 |
มะระตุ๋นเห็ดหอม | 59.26 | 11.65 | 2.74 | 0.23 |
แอปเปิ้ล 105 กรัม | 61 | 14.70 | 0.20 | 0.10 |
รวม | 433.92 | 61.42 | 18.84 | 12.55 |
อ้างอิงจาก ; http://www.thaifoodtoworld.com/home/recipediet.php?&language=TH&language=TH&language=EN&language=TH